“ใบหน้า” เป็นสิ่งที่ทุกคนคาดหวังและอยากให้แลดูสวย สุขภาพดีกันอยู่ตลอดเวลา ทุกคนจึงตั้งใจ ดูแลใบหน้า ของตนเองให้สวยอยู่เสมอไม่ว่าจะเป็นการรับประทานอาหาร ความเป็นอยู่ การแต่งหน้า และอีกหลากหลาย หากใครรู้ว่าใบหน้าของตนเองเริ่มมีปัญหาก็จะเข้าคลินิกกันแน่นอน และในบางครั้งบางพฤติกรรมของเรานั้นก็เสี่ยงต่อการทำให้ใบหน้ามีปัญหาเช่นกัน “หน้าเบี้ยว “ เป็นอาการชนิดหนึ่งไม่จำเป็นว่าต้องเป็นโรคภัย ไข้เจ็บเราก็สามารถมีใบหน้าเบี้ยวได้เช่นกัน ซึ่งก็เป็นพฤติกรรมบางอย่างที่เราอาจจะคุ้นเคยนั่นคือ “การนอน” ซึ่งหลายคนอาจจะสงสัยว่าการนอนเกี่ยวอะไรกับอาการหน้าเบี้ยว วันนี้มีคำตอบค่ะมาพบกับ “ 3 ท่านอนที่เสี่ยงใบหน้าเบี้ยว ควรงด “ที่เพื่อน ๆ ควรอย่างอย่างยิ่งทีเดียว มาดูกันเลยค่ะว่านอนแบบไหนแล้วใบหน้าเบี้ยวกันบ้าง มาเริ่มที่
- นอนตะแคงข้างใดข้างหนึ่งเป็นเวลานาน
ท่าการนอนตะแคงข้างใดข้างหนึ่งเป็นเวลานานทำให้ใบหน้าได้รับการกดทับเวลานานใบหน้าจะได้รับการกดทับและทำให้ใบหน้าได้รับการกดทับอย่างรุนแรงทำให้กะโหลกได้รับการกดทับรุนแรงเช่นกัน อีกทั้งยังทำให้กรามเรานั้นไม่สมดุลอีกด้วย ดังนั้นควรนอนหงายมากกว่าการนอนตะแคงเพื่อลดการกดทับ และสามารถหลีกเลี่ยงอาการฟันสบห่างกันได้อีกด้วย
- นอนคว่ำ
การที่เรานั้นนอนคว่ำมากจนเกินไปจะทำให้ใบหน้าได้รับการกดทับที่หมอนเสี่ยงต่อกรามเรานั้นเบี้ยว ไม่เท่ากันได้ และทำให้ศีรษะไม่สมดุลหากใครที่ชอบนอนคว่ำเสี่ยงต่อหน้าเบี้ยวอย่างแน่นอน แนะนำให้นอนหงายหากนอนคว่ำไม่ควรนอนเป็นระยะเวลานานจนเกินไป
- นั่ง หรือนอนเท้าคาง
ใครที่ชอบนั่ง หรือนอนเท้าคางเป็นระยะเวลานาน ฝ่ามือของเรานั้นเมื่อลงน้ำหนักไปแล้วจะทำให้ส่วนใบหน้าและคางมีการเบี้ยวได้เช่นกัน ดังนั้นไม่ควรนอนหรือเท้าคางหรือนำฝ่ามือลงน้ำหนักกับใบหน้ามากจนเกินไป ให้งดการนอนเท้าคาง หรืองดนั่งเท้าคางให้ทำหน้านิ่งเอาไว้ หรือไม่ต้องเอามือเท้าคางหรือสามารถแก้ได้โดยการนำหมอนมารองไว้แทนได้เช่นกัน
นี่ก็เป็นวิธีและเคล็ดลับพร้อมทั้งข้อห้ามเล็ก ๆ น้อย ๆ 3 ท่านอนเสี่ยงใบหน้าเบี้ยว สำหรับพฤติกรรมเสี่ยงหน้าเบี้ยว เพื่อน ๆ ติดนิสับไหนกันบ้างไหมคะ บางอย่างทำได้แต่อย่าทำจนเคยชิน บางอย่างควรลดได้ก็ลดนะคะ หากเกิดอาการใบหน้าเบี้ยวขึ้นมารับรองว่าใบหน้าไม่สวยอย่างแน่นอน และแก้ไขยากอีกด้วยค่ะ หวังว่าบทความนี้คงเป็นประโยชน์กับเพื่อน ๆ ไม่มากก็น้อย สามารถลองทำตาม หรืออะไรควรงดได้ควรงดก่อนนะคะ