อยากผิวสวยก็ต้องใช้ครีมกันแดด
เมื่อซัมเมอร์มาถึง สิ่งที่เราขาดไปไม่ได้ก็คือครีมกันแดด ประเทศไทยของเรานั้นจัดได้ว่ามีฤดูร้อนที่โหดมาก ออกจากบ้านทีนึงผิวอาจจะโดนเบิร์นได้ ซึ่งกว่าจะหายจาก อาการผิวไหม้แดด ก็ใช้เวลาค่อนข้างนาน ซ้ำร้ายบางคนผิวอาจจะลอกเป็นขุยได้อีกด้วย จริง ๆ แล้วสิ่งที่เราโฟกัสมากที่สุดจากครีมกันแดดก็คือการถูกปกป้องจากรังสี UVA และ UVB เพราะสองรังสีนี้เป็นศัตรูกับผิวเรามากที่สุด ค่าของ SPF สูง ๆ แทบจะไม่ได้ส่งผลอะไรกับผิวเราเลย ยิ่งค่าสูงมากเท่าไหร่ ความมัน เหนียวเหนอะหนะก็จะมากขึ้นเท่านั้น อีกทั้งราคาก็แพงเอาเรื่องอยู่ รังสี UVA และ UVB ไม่ได้พบแค่เฉพาะในแสงแดด สามารถพบได้บนแสงหน้าจอคอมพิวเตอร์ หรือโทรศัพท์ ทางที่ดีก็คือไม่ว่าจะฤดูกาลไหน ๆ จะอยู่บ้านหรือออกจากบ้าน ควรทาครีมกันแดดทุกครั้ง
ปริมาณการทาก็สำคัญเช่นกัน หลายคนทาน้อยมาก ปริมาณที่แพทย์ผิวหนังแนะนำก็คือประมาณสองข้อต่อนิ้วปลาย ถ้าน้อยกว่านี้การปกป้องผิวจะไม่ได้ประสิทธิภาพ การใช้ครีมกันแดดนั้นต้องทาซ้ำทุก ๆ 2-3 ชั่วโมงอีกด้วย เพราะไม่มีครีมกันแดดยี่ห้อใดที่ทาแล้วจะสามารถป้องกันรังสียูวีได้ 100% หรือป้องกันแสงแดดได้ตลอดทั้งวัน นอกเหนือจากการใช้ครีมกันแดดแล้ว
วิธีการป้องกันอันตรายจากแสงแดดได้ดีที่สุด คือ
การหลีกเลี่ยงแสงแดดจัด ๆ ก็ยังต้องป้องกันแสงแดดด้วยวิธีอื่น ๆ ด้วย เช่น กางร่มทึบ ไม่ใช่ร่มสีใสเพราะร่มชนิดนั้นแทบจะกันแดดไม่ได้เลย ,ใส่หมวก, สวมแว่นแดด เพราะบริเวณรอบดวงตาเป็นส่วนที่บอบบางและมักจะไม่ได้รับการทาครีมกันแดด เพื่อป้องกันดวงตาไม่ให้เสื่อมก่อนวัย และเลือกใส่เสื้อผ้าที่มีคุณสมบัติในป้องกันแสงแดด อย่างเช่นผ้าฝ้ายผสมโพลีเอสเตอร์ ซึ่งจะช่วยป้องกันรังสี UV ได้ถึง 80% สำหรับสาว ๆ คนไหนที่ประมาทว่าในรองพื้นหรือแป้งผสมรองพื้นต่าง ๆ ที่ใช้อยู่มีส่วนผสมของครีมกันแดดแล้ว ฉะนั้นไม่จำเป็นต้องใช้หรอก ห้ามคิดแบบนี้เด็ดขาด เพราะว่าครีมกันแดดในเครื่องสำอางและครีมกันแดดธรรมดานั้นต่างกันมาก ฉะนั้นต้องใช้ร่วมด้วยทุกครั้ง ห้ามมีข้อแม้!
สำหรับสาว ๆ คนไหน อยากผิวสวยก็ต้องใช้ครีมกันแดด ที่เป็นสายอาบแดด การใช้น้ำมันต่าง ๆ เช่นน้ำมันมะพร้าว เบบี้ออยล์ หรือแม้แต่น้ำมันมะกอก ก็ไม่ได้ช่วยกันแดดได้ตามคำเคลมที่เลื่องลือกัน ยกเว้นเสียว่าผลิตภัณฑ์นั้นคือกันแดด ที่มาในฟอร์มูล่าของออยล์โดยเฉพาะ อันนี้สาว ๆ สามารถใช้ได้ แต่หลังจากตากแดดนาน ๆ ก็อย่าลืมคูลดาวน์ผิวด้วยโลชั่นหรือว่านหางจระเข้ เพื่อป้องกันการไหม้เสียของผิวนั่นเอง